สถานที่ท่องเที่ยวในประเภท "ตลาดน้ำ" นั้นแทบจะเรียกได้ว่าอยู่คู่เป็นขวัญใจของบรรดานักถ่ายภาพมาเป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกระแสกล้องดิจิตอลบูมสุดๆ แทบจะถือได้ว่าตลาดน้ำทุกๆ แห่งเป็นอีกหนึ่งศูนย์รวมคนถ่ายภาพที่ไม่เคยสิ้นเสียงชัตเตอร์ ภาพถ่ายภาพแล้วภาพเล่าบอกเล่าเรื่องราวของสังคมเหนือผิวน้ำอย่างไม่รู้จักจบ สิ้น
ถือ เป็นตลาดน้ำล่าสุดที่เพิ่งเปิดดำเนินการเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2552 ในพื้นที่ของเขตตัวเมืองกรุงเก่าอยุธยา ที่นี่ไม่ได้มีพ่อค้าแม่ขายพายเรือป่าวร้องขายสินค้าเหมือนที่อื่นๆ ร้านรวงทั้งหมดจะอยู่บนพื้นไม้ไผ่เหนือผิวน้ำ ที่ทอดตัวยาวเป็นทรงสี่เหลี่ยมล้อมบึงน้ำชนบทด้วยเนื้อที่ราวไร่เศษๆ ตลาดน้ำแห่งนี้เน้นสินค้าประเภทอาหารพื้นบ้านในยุคดั้งเดิม หลายสิ่งหลายเมนูก็ไม่เคยคุ้นในข้อมูลความทรงจำของคนรุ่นใหม่ และบางสิ่งก็ไม่มีในสารบบของข้อมูลทั้งของคนรุ่นพ่อแม่หรือเด็กยุคกดปุ่มแม้ แต่น้อย สร้างความแปลกประหลาดใจให้กับนักท่องเที่ยวที่แวะมาเยี่ยมเยือนตลาดแห่งนี้ ได้พอสมควร ที่เก๋ไก๋ก็คือบรรดาพ่อค้าและแม่ค้าใหญ่น้อยต่างก็ใช้คอนเซปต์การแต่งกายแบบ ย้อนยุค
ราว กับชาวบ้านที่เราได้เห็นในละครจักรๆ วงศ์ๆ ภาชนะใส่อาหารหลายๆ อย่างก็เป็นแนวพื้นบ้าน อาหารหลายอย่างถูกบรรจุมาในสิ่งที่เราคุ้นเคยว่าเป็นเข่งปลาทู แต่เมื่อมีการจัดตกแต่งด้วยใบตองหรือดอกกล้วยไม้ เข่งปลาทูธรรมดาก็กลายเป็นภาชนะสุดแนวที่เอาจานกระเบื้องเคลือบมาแลกก็ไม่มี วันยอม
เช่น เดียวกับตลาดน้ำโดยทั่วไปที่ต้องมีของอร่อยๆให้เพลินชิวหา เมนูหลากหลายรายล้อมรอบบึงกลางทุ่งแห่งนี้เรียกได้ว่ามากระเพาะเดียวคงไม่พอ เพราะมีร้านค้ามากมายจริงๆ มีทั้งอาหารไทยและอิสลามให้เลือกชิมได้ตามอัธยาศัยใจชอบ หากจะใช้วิธีเคลียร์ท้องแล้วมาถึงช่วงเที่ยงตรงเป๋งอาจจะลำบากเพราะคนจะมาก ไม่ทันใจ ยังไงก็อย่าลืมคิดเผื่อตรงนี้เอาไว้ด้วย
เดิน ทางไปร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ เพิ่งจะเคยเจอเมนูแปลกแบบที่เอาดอกไม้สวยกลางน้ำมายำใส่เครื่องและด้วยความ ที่ชื่อแนวเดียวกับชื่อสถานที่ ก็เลยยิ่งส่งผลให้เมนูนี้เป็นที่เรียกหาของนักท่องเที่ยวซึ่งมาเยือนถึงตลาด น้ำคลองสระบัวแห่งนี้...นี่นับเป็นครั้งแรกที่ได้ลองรสกลีบดอกบัวสีบานเย็น รสชาติเป็นอย่างไร คงต้องท้าให้ไปลองด้วยตัวเอง...
ความ แปลกอีกอย่างของตลาดน้ำแห่งนี้ที่ไม่เหมือนที่อื่นก็คือ เป็นตลาดน้ำที่ถูกรังสรรค์ขึ้นกลางท้องนาและบึงน้ำที่มีชื่อว่า "ทุ่งขวัญ" แต่เดิมที่พื้นที่แห่งนี้ก็คงตกอยู่ในความเงียบสงบห่างไกล ไม่มีทางจะนึกภาพนักท่องเที่ยวผู้ย่างกรายเข้ามาบริเวณนี้ได้นอกจากเกิดการ พลัดหลงเข้ามา โดยรอบด้านนั้นก็คือพื้นที่ชนบททั่วไปที่มีลำคลองสายเล็กๆ ไหลผ่าน ชาวบ้านประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก
|