เที่ยวสวนสนุก Universal Studios Singapore และเกาะ Sentosa

กินเที่ยว
เที่ยวสวนสนุก Universal Studios Singapore และเกาะ Sentosa

ถ้าถามว่าสิงคโปร์มีอะไรน่าเที่ยวบ้าง คงหนีไม่พ้น Universal Studios Singapore สวนสนุกแห่งนี้ดึงนักท่องเที่ยวมาเที่ยวสิงคโปร์ได้เยอะ สำหรับการเที่ยว Universal Studio และเกาะ Sentosa ควรมีเวลาอย่างน้อย 1 วัน เพราะบนเกาะมีที่เที่ยวหลายจุด

ถ้าถามว่าช่วงนี้สิงคโปร์มีอะไรน่าเที่ยวบ้าง คงหนีไม่พ้นสวนสนุก ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์ Universal Studios Singapore (USS) ที่เพิ่งเปิดไปเมื่อปี 2010 สวนสนุกแห่งนี้ดึงนักท่องเที่ยวมาเที่ยวสิงคโปร์ได้เยอะ เพราะเป็น Universal Studios แห่งที่สองของเอเชีย อีกที่หนึ่งจะอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น สำหรับการเที่ยว Universal Studio และเกาะ Sentosa (เซนโตซา) ควรมีเวลาอย่างน้อย 1 วัน เพราะบนเกาะมีที่เที่ยวหลายจุด

บัตรเข้าชม Universal Studios Singapore

สำหรับบัตร Universal Studios Singapore วันธรรมดาอยู่ที่ราคา 66 SGD วันหยุดราคา 72 SGD ช่วงที่เราไปมีโปรโมชั่นถ้าซื้อบัตรเข้าชมแล้วจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิต Master card ลดอีก 20% (ถึง 27 พ.ค. 54) ลดไปได้เยอะเลยครับ จาก 66 SGD เหลือ 52.8 SGD เป็นเงินไทยก็ประมาณ 1,267 บาท และยังมี Voucher ซื้อของที่ระลึกใน USS แจกอีก 10 USD สำหรับ 200 คนแรก (ไปลุ้นรับที่ USS)

บัตรเข้าชม เมื่อซื้อไปแล้วสามารถเล่นเครื่องเล่นได้ทุกอย่างใน Universal Studio ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม ยกเว้น ปืนเขา ที่ต้องเสียตังค์ต่างหาก อีกคำถามนึงที่คนชอบถามกันว่ามีบัตรสำหรับเข้าไปเดินเล่น ถ่ายรูป โดยที่ไม่เล่นเครื่องเล่นไหม คำตอบคือไม่มีครับ ถึงจะเข้าไปเดินเล่นก็ต้องเสียราคาเต็ม

สำหรับท่านที่ซื้อตั๋ว Online ทางเวบ เค้าจะส่งตั๋วมาให้ทาง e-mail ให้นำไป print แล้วนำไปใช้ได้เลยครับ ไม่ต้องไปแลกเป็นตั๋วอีกที


บัตรเข้าชม Universal Studios Singapore ที่ส่งมาทาง e-mail

ราคาบัตรแบบ 1 วัน

วันธรรมดา —- ผู้ใหญ่ 66 SGD —- เด็ก 48 SGD — ผู้สูงอายุ 32 SGD

วันหยุด —- ผู้ใหญ่ 72 SGD —- เด็ก 52 SGD — ผู้สูงอายุ 36 SGD

ราคาบัตรแบบ 2 วัน

วันธรรมดา —- ผู้ใหญ่ 118 SGD —- เด็ก 88 SGD — ผู้สูงอายุ 58 SGD

ในวันเสาร์-อาทิตย์ จะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวค่อนข้างมาก เครื่องเล่นบางอย่างต้องรอคิวนาน แต่ถ้าไม่อยากรอคิวนาน ใช้เงินซื้อเวลาได้ครับ นอกเหนือจากบัตรเข้าชมแล้ว ให้ซื้อ Express Pass อีก 30 SGD เครื่องเล่นทุกชนิด และการแสดงทุกอย่างจะมีแถว Express Pass ซึ่งคิวจะสั้นกว่าแถวปกติมากๆ แต่ถ้ามาวันธรรมดาไม่ต้องซื้อ Express Pass นะครับ ไม่คุ้ม

การเดินทางมา Universal Studios Singapore และเกาะ Sentosa

ให้นั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานี HarbourFront (สุดสาย สายสีม่วง) สามารถเดินทางได้ 4 วิธี

1. Sentosa Express เป็นวิธีที่สะดวกและได้รับความนิยมมากที่สุด จากสถานี HarbourFront ให้เดินมาที่ห้าง Vivo City ขึ้นไปที่ชั้น 3 ของห้าง ที่สถานี Sentosa จะมีรถไฟฟ้าวิ่งไปยังเกาะ Sentosa เสียค่าใช้จ่ายคนละ 3 SGD ถ้ามี EZ link อยู่แล้วก็ใช้ EZ link แตะผ่านเข้าไปได้เลย หรือจะซื้อบัตรโดยสารราคา 3 SGD ที่ตู้ก็ได้

2. Cable car กระเช้าลอยฟ้า เหมาะสำหรับผู้ไม่กลัวความสูง วิวด้านบนจะมองเห็นฝั่งสิงคโปร์ได้ชัดเจน ราคาไป-กลับ 15 SGD คนไม่ค่อยนิยมเท่าไหร่ ถ้าไปวันธรรมดา แทบจะไม่เจอใครที่เดินทางด้วย Cable car เลย

3. Sentosa Bus เป็นรถเมล์ที่วิ่งระหว่าง Habour front ไปยังเกาะ Sentosa ไม่แนะนำครับ ใช้เวลาเยอะไป ไม่สะดวก

4. Boardwalk ทางเดินเท้า เสียค่าผ่านเพียง 1 SGD เป็นทางเลื่อนอัตโนมัติ และต้องเดินเองเป็นช่วงๆ ระหว่างทางจะเห็นวิวทะเลสวยงาม

ไม่ว่าจะเดินทางมา Sentosa ด้วยวิธีไหนก็ตาม เราสามารถใช้บริการ Sentasa Express, Bus ได้ฟรีตลอดที่อยู่บนเกาะ

 

 

ใครที่ยังไม่มีตั๋ว Universal Studios หรือ Song of the sea ก็ซื้อได้ที่นี่ครับ ข้างๆ กับที่จำหน่ายตั๋วจะมีร้านอาหารอยู่ ชื่อร้าน FoodRepuplic

ห้องที่มีคำว่า sentosa ในรูปด้านบน และเสาที่อยู่ตรงข้ามห้องนี้ มีแผนที่เกาะ Sentosa และข้อมูลท่องเที่ยว Sentosa เยอะมาก เลือกหยิบได้ตามสบายครับ


ร้านอาหารที่ Vivo city จะถูกกว่าทานที่เกาะ Sentosa
 
ที่จำหน่ายบัตรโดยสาย Sentosa Express
 

มาแล้วครับรถไฟฟ้า Sentosa Express เป็นรถ Monorial เราจะนั่งไปลงที่ Universal Studios ตรงนั้นคือสถานี Waterfront Station ใช้เวลาประมาณ 5 นาที

บนเกาะ Sentosa จะมีสถานีรถไฟฟ้า (Sentosa Express) อยู่ 3 สถานีสั้นๆ เราสามารถนั่งมาไหน ไปไหนได้หมด โดยที่ไม่ต้องเสียค่าโดยสารอีกแล้ว

เส้นทางรถไฟฟ้าจะวิ่งตามนี้ครับ

(ห้าง Vivo City) <–> Waterfront Station <–> Imbiah Station <–> Beach Station

สถานี Waterfront Station เป็นที่ตั้งของสวนสนุก Universal Studios Singapore และ Casino

สถานี Imbiah Station เป็นที่ตั้งของ Merlion Park หรือ Merlion ตัวพ่อนั่นเอง เป็น Merlion ที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์

สถานี Beach Station เป็นที่ตั้งของชายหาดต่างๆ เช่น Siloso, Palawan, Tanjong และเป็นที่แสดง Song of the Sea นอกจากนี้ยังมีป้อมปืนใหญ่ (Fort Siloso) ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย

 

ช่วงที่เราไปลูกโลก Universal เสียพอดี ถ่ายรูปน้ำพุ Universal Studios ไปก่อนละกัน ใกล้ๆ กับน้ำพุเป็นร้าน Candylicious ร้านขายขนม พวกลูกอม ลูกกวาด (Candy) ที่ใหญ่ที่สุด
 

Merlion หลากสี ดูไปดูมาคล้ายๆ แมวเลย
 


Universal Studios จะเปิดเวลา 10.00 – 21.00 น. ใครที่ print ตั๋วมาจากบ้าน ต้องยื่นให้เค้าสแกน Barcode

เครื่องเล่นและการแสดงโชว์ ใน Universal Studios มีอยู่หลายอย่าง ให้ดูรอบโชว์ในใบที่เค้าแจกให้ที่ทางเข้า รอบโชว์ในแต่ละวันบางทีก็เปลี่ยนแปลงได้

ลักษณะการเดินใน Universal Studios จะเป็นการเดินเป็นวง ตามเข็มนาฬิกาหรือทวนก็ได้ โซนแรกที่เจอจะเป็นโซน Hollywood
 


แผนที่ Universal Studios Singapore (คลิกที่ภาพเพื่อขยาย)


ก่อนเข้าชมด้านใน เราก็ต้องดูแผนที่คร่าวๆ และรอบการแสดงของแต่ละโชว์ไว้ก่อน ว่าโซนอะไรอยู่ตรงไหนบ้าง ตอนกี่โมง จะได้วางแผนถูก

ใครที่ก๊อปกำหนดการเล่นเครื่องเล่นจากคนอื่น หรือจากในเนต ดูให้ดีๆ นะครับ ในแต่ละวัน รอบเครื่องเล่น ก็มีเปลี่ยนแปลงได้

โซน Hollywood

โซนนี้เป็นโซนแรกใน Universal Studios จะเป็นร้านค้า ร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหารซะมากกว่า จำลองบรรยากาศของตึกต่างๆ แบบ Holywood

 

ร้านขาย Pop corn ราคาถังละ 6.5 SGD ถังนึงก็ประมาณถังใส่ KFC บ้านเราแหล่ะครับ เยอะไปไหม ส่วนน้ำดื่ม (Mineral) 2 SGD ราคาปกติของสิงคโปร์

ในโซนนี้ ไม่มีเครื่องเล่นนะครับ มีเพียงโรงละคร แพนเทจส์ ฮอลีวู๊ด เทียเตอร์ ด้านล่างเป็นรูปภายในโรงละคร แพนเทจส์ ฮอลีวู๊ด เทียเตอร์ ผมจะบรรยายตามสถานที่เลยนะครับ ไม่ได้เรียงลำดับว่าไปอันไหนก่อน-หลัง

 


Pantages Hollywood Theater เป็นโรงละครเวที จุคนได้ถึง 1,500 คน วันที่ไปมีละครเวทีบรอดเวย์เรื่อง Monster Rock ลักษณะการแสดงจะเป็นละครสลับการการเต้น และการร้องเพลงแนว Rock ‘n Rool มีเอฟเฟคประกอบด้วย นักแสดงแต่งชุดแบบผีฝรั่ง  ใช้เวลาประมาณ 40-50 นาที ผมว่าไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ หรือผมไม่ชอบแนวนี้ก็ไม่รู้ เอาเป็นว่าถ้าเวลาเหลือก็ลองมาดูกันครับ
 

Universal Studios Store (รูปบนซ้าย) เป็นร้านขายของหลายอย่าง ของ Universal Studios เช่นของเล่น, เสื้อผ้า ราคาของในนี้ก็แพงใช้ได้เลย

Celebrity Cafe’ & Bakery (รูปบนขวา)ร้านอาหาร แนวเบเกอรี่ กาแฟ, แซนวิช

The Dark Room ขายอุปกรณ์กล้องถ่ายรูป กล้องใคร Memory ไม่พอ แบตหมด ลองเข้าไปดูได้ครับ


The Brown Derby มีหมวก และอุปกรณ์แต่งตัวแบบแฟนซี เป็นตัวการ์ตูนให้ยืมใส่ถ่ายรูป

ออกจากโซน Holywood แล้วเราจะเลือกเดินวนไปทางซ้าย หรือทางขวาก็ได้ครับ เดินไปทางที่คนน้อยจะดีกว่า ไม่ต้องรอคิวนาน ถ้าเดินไปทางซ้ายจะเจอกับโซน Madagascar

TIP.

ก่อนที่จะเข้าไปยังโซนเครื่องเล่น ผมขอแนะนำเทคนิคที่ทำให้เล่นเครื่องเล่นได้เร็วขึ้น ไม่ต้องต่อแถวนาน เกือบทุกเครื่องเล่นจะมีแถว Single Rider สำหรับคนที่มาคนเดียว หรือไม่จำเป็นจะต้องนั่งคู่กับใคร โดยปกติแล้วเมื่อเครื่องเล่นมา เค้าจะจัดคนแถวหลักเข้าไปนั่ง แล้วเหลือเศษ 1-2 เค้าก็จะเอาแถวของ Single Rider เข้าไปเติมเต็ม และแถว Single Rider คนจะมีไม่เยอะ ทำให้ได้เล่นเครื่องเล่นเร็วกว่าแถวปกติ

โซน Madagascar

โซนนี้มาจากการ์ตูนเรื่อง Madagascar ร่วมผจญภัยไปกับ Alex และ Marty เครื่องเล่นในโซนนี้จะเหมาะกับเด็กๆ ไม่เสียว ไม่น่ากลัว

 


เครื่องเล่นในโซนนี้ Madagascar : A Creat Adventure ล่องเรือไปกับ Alex, Marty, Melman และ Gloria เราจะต้องนั่งในเรือลำนึงก็ประมาณ 20-30 คน เรือก็จะไหลไปตามทางน้ำไหล ผ่านผืนป่ามาดากาสการ์ ในหนังภาคที่ 1 ข้างในสว่างครับ ไม่น่ากลัว เหมาะสำหรับเด็กๆ
 



King Julien ’s Beach Party-Go-Round ม้าหมุนสัตว์ชนิดต่างๆ ริมชายหาดจำลอง เหมือนจะเป็นของเล่นเด็กเล็ก แต่ก็แอบเห็นผู้ใหญ่มาเล่นเหมือนกัน ดูแล้วน่ารักดีครับ
 

 

ในโซน Madagascar จะมีโชว์อยู่หนึ่งโชว์ ชื่อโชว์ Madagascar Boogie! จะเป็นตัวการ์ตูนในเรื่อง Madagascar มาเต้นในเพลง I like to move it, Move it พอเต้นเสร็จก็จะอยู่ให้เราถ่ายรูปต่อ ใครที่ไปคนเดียวหรือไปกับแฟน ส่งกล่องให้เค้าถ่ายรูปให้ได้เลยครับ

โซน Far Far Away

โซนนี้มีดีที่ ปราสาท Shrek ตัวปราสาทคล้ายกับที่ Disney land เลย ภายในปราสาทเป็นโรงภาพยนต์ 4 มิติ



ปราสาท Shrek


Shrek 4-D Adventure ชมหนัง 4 มิติเรื่อง Shrek ตอนแรกเราจะเข้าไปอยู่ในห้องแรก เล่าเรื่องโดยกระจกวิเศษ หมูสามตัวที่อยู่ในกล่อง ให้เรายืนฟัง เป็นการเกริ่นเรื่อง อาจจไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ แต่อย่างเพิ่งออกนะครับ พอเกริ่นเสร็จจะเข้าไปในส่วนโรงหนัง 4D

เนื้อเรื่องจะเป็นตอนที่เจ้าหญิง Fiona ถูกจับตัวไป แล้ว Shrek เข้าไปช่วย คนดูต้องสวมแว่นตาสามมิติด้วย เมื่อใส่แว่นแล้ว ภาพจะเหมือนยื่นมาใกล้ตัวเรา มิติที่ 4 ของหนังเรื่องนี้อยู่ที่เก้าอี้ขยับได้ ในฉากที่ Shrek ควบม้า เก้าอี้จะโยกตามไปด้วย มีลมพัดมาจริง มีละอองน้ำ ทำให้เหมือนอยู่ในเหตุการณ์ หนังเรื่องนี้ตื่นเต้นสุดตอนที่แมงมุมออกมา แนะนำว่าไม่ควรพลาดครับ

ก่อนเข้าดูหนังเรื่องนี้เก็บโทรศัพท์ และกระเป๋าสตางค์ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงไว้ดีๆ นะครับระวังจะร่วงหล่นหาย


ออกจากปราสาท Shrek แล้วมานั่งรถไฟเหาะ แบบชิวๆ ต่อ
 


 

Enchanted Airways เป็นรถไฟเหาะที่มีหัวเป็นมังกร รางอยู่ไม่สูง แล่นไปเรื่อยๆ ไม่หวาดเสียว เด็กเล็กและผู้ใหญ่ก็เล่นได้ครับ

The Lost World

ดินแดนแห่งไดโนเสาร์ และสัตว์โลกล้านปี ที่ด้านหน้าโซนนี้มีรูปปั้นไดโนเสาร์ ให้ถ่ายรูป โซนนี้ได้แนวคิดมาจากหนังเรื่อง Jurassic Park และ The Lost World

 


รูปปั้นไดโนเสาร์ขนาดใหญ่ 2 ตัวที่ด้านหน้าโซน

มาดูเครื่องเล่นในโซนนี้กันบ้างครับ
 


Rapids Adventure เครื่องเล่นนี้รอคิวนานหน้า เทคนิคที่จะได้เล่นเร็วขึ้นก็คือ เข้าแถว Single Rider Lane แต่ก็ต้องทำใจหน่อยว่าคงไม่ได้เล่นพร้อมกับเพื่อน
 


Jurassic Park Rapids Adventure เครื่องเล่นนี้มีสิทธิ์เปียกสูงครับ แนะนำให้ใส่เสื้อกันฝนเตรียมไว้เลย หากไม่มีให้ซื้อเอาที่ทางเข้า ราคา 2 SGD เข้าไปด้านในจะเป็นทางน้ำให้ล่องแก่ง เข้าไปในดินแดน Jurassic Park มีไดโนเสาร์อยู่ 2 ข้างทาง เราจะอยู่บนเครื่องทรงกลมคล้ายถ้วย นั่งได้ 8 คน น้ำจะไหลพาเราไปเขาตึกมืดๆ แล้วก็ออกมา แล้วก็ตกด้านล่าง แล้วแต่ดวงครับว่าฝั่งไหนจะเปียก น่าจะคล้ายกับ Grand canyon ที่ Dream world บ้านเรา
 




Canopy Flyer เป็นที่นั่งแบบห้อยขา นั่งเป็นคู่ 2 คู่นั่งหันหลังชนกัน กระเช้าจะเคลื่อนที่ พาชมวิวในโซน The Lost World เลื่อนไปตามราง เหมาะสำหรับชมวิว ชิลๆ ไม่น่ากลัว


ใครที่หอบของไป แล้วอยากจะเล่นเครื่อง กลัวว่าจะไม่สะดวก เค้ามีที่ให้ฝากของด้วยครับ เป็นล๊อคเกอร์สีเหลือง มีอยู่ทุกโซน

วิธีใช้ตู้ล๊อคเกอร์ ใส่ วัน/เดือน/ปี เกิด  + สีที่ชอบ ที่เครื่องคอมพิวเตอร์สีเขียว แล้วจำเวลาที่ฝากได้ฟรีว่าถึงกี่โมง ฝากได้ฟรี 30 นาที เกินกว่านั้นก็เสียตังค์ตามเวลาที่เกิน อย่าลืมเอากระเป๋าตังค์ออกจากล๊อคเกอร์ด้วยนะครับ เอาไว้หยอดค่าล๊อคเกอร์ ส่วนมากจะเสียตังค์ค่าฝากกันทั้งนั้น กว่าจะรอเครื่องเล่น กว่าจะได้เล่น ก็เกิน 30 นาทีแล้ว และที่สำคัญอีกอย่าง ตู้ล๊อคเกอร์นี้ไม่ทอนเงินนะครับ พยายามหยอดเงินให้พอดีจะได้ไม่เสียตังค์ไปเปล่าๆ
 


ในโซน The Lost World จะมีโชว์อยู่ 1 โชว์ ชื่อ WaterWorld เป็นการแสดงโชว์สตั๊นแมน (Stunts) ถ้าใครเคยดูโชว์ที่ซาฟารีเวิลด์ ก็จะประมาณนั้น วันนึงเปิดแสดงเพียง 2 รอบ คนมาดูเยอะมาก แนะนำให้ไปก่อนเวลาแสดง อย่างน้อย 15 นาที

การแสดง WaterWorld นั้น มาจากหนังแอคชั่น ลงทุนสูง เรื่องหนึ่งของอเมริกา หนังเรื่องนี้พอฉายจริงกลับไม่ดังอย่าที่คิด จะเป็นยังไงก็ลองไปหาชมกันครับ


โซนที่นั่งของ WaterWorld จะแบ่งเป็นสี ต้องเลือกนั่งให้ดีนะครับ

โซนสีฟ้า – นั่งโซนนี้เปียกแน่นอน

โซนสีเขียว – เปียก แต่ไม่มาก ประมาณน้ำกระเด็น

โซนสีน้ำตาล – ปลอดภัย ไม่เปียก


สังเกตุว่าคนที่มาก่อนจะเลือกนั่งสีน้ำตาล ส่วนคนที่มาทีหลังถ้าอยากเห็นชัดก็ต้องยอมนั่งโซนเปียก
 


ตอนแรกผมเข้าใจว่าโซนเปียก จะเปียกจากการแสดง Effect แต่ไม่ใช่ซะทีเดียว ก่อนที่การแสดงจะเริ่ม สตั๊นแมน จะให้คนดูปรบมือ ทำคลื่นเวฟ พอไม่ได้อย่างใจก็สาดน้ำใส่คนดูซะเลย ทั้งตักจากถัง และเอากระบอกสูบมาฉีด เป็นการ Entertain คนดูที่แย่มาก ยิ่งใครกางร่มจะยิ่งเจอฉีดไม่ยั้ง

ถ้าเลือกได้ก็เลือกเก้าอี้สีน้ำตาลนะครับ จะได้ไม่ต้องเสี่ยงน้ำโดนกล้องถ่ายรูป หรือ โทรศัพท์มือถือ
 


การแสดงเริ่มขึ้นแล้วครับ เริ่มจากนางเอกที่ขับเรือเล็กออกมา
 


เรื่องราวก็ประมาณว่า นางเอกถูกจับตัว พระเอกก็ไปช่วย เนื้อเรื่องอาจจะไม่สนุกเท่าไหร่ แต่เอฟเฟคทำดีครับ
 


การแสดงของนักแสดง + ฝีมือในการขับเรือ ยอมรับว่าเก่งมากๆ ครับ


เอฟเฟค เสียงปืน ระเบิดก็ใส่กันเต็มที่ จังหวะที่เรือเจทสกีเลี้ยว ก็มีน้ำกระเด็นออกมาโดนคนดูบ้าง นิดหน่อย จะมีฉากตื่นเต้นอยู่ฉากนึงมีการปล่อยเครื่องบินตกลงมาที่น้ำ (รูปบนซ้าย)

สังเกตุนางเอกในโชว์ชุดนี้ หุ่นล่ำมาก แต่เธอแสดงเก่งจริงๆ ครับ มีโรยตัว ต่อสู้กับผู้ชาย

โชว์ชุดนี้ใช้เวลาประมาณ 45 นาที

โซน Ancient Egypt

บรรยากาศแบบอิยิปห์ ที่ไม่ต้องไปไกลถึงประเทศอียิปห์ โซนนี้มาจากหนังเรื่อง Mummy

 



 


ทางเข้าโซนมีรูปปั้นสีดำ ซ้าย – ขวา กำลัง ชาบูๆ เราอยู่
 


เครื่องเล่นยอดนิยมในโซนนี้ Revenge of the Mummy เป็นรถไฟวิ่งไปในความมืด หนีการล้างแค้าของมัมมี่ ความน่ากลัวอยู่ที่ไม่รู้ว่ารถไฟกำลังวิ่งไปในทิศทางไหน ข้างในทำเอฟเฟคสวยงาม มีหมอก มีควัน มีถอยหลังตีลังกาด้วย ใครที่เคยเล่นรถไฟตะลุยจักรวาลที่ Dream world ก็คล้ายๆกันครับ แนะนำว่าไม่ควรพลาด ใครได้ลองเล่นแล้ว ส่วนมากจะต้องขอเบิ้ลอีกรอบ เครื่องเล่นนี้ต้องฝากของและกล้องถ่ายรูปด้วยนะครับ
 




ที่หน้าทางเข้า Revenge of the Mummy พี่คนนี้โพสท่าให้เราถ่ายรูป

มาถึงเครื่องเล่นแบบเด็กๆ บ้าง Treasure Hunters เป็นรถ Jeep นั่งได้คันละ 4 คน วิ่งไปตามราง เราไม่ต้องขับ ระหว่างทางจะเจอกับสัตว์ร้ายเช่นจระเข้ งู ฝูงแมลงนับร้อยตัว ซากหีบ เครื่องใช้ต่างๆ 1 รอบประมาณ 5 นาที
 




โซน Sci-Fi City

Sci-fi City หรือโซนแห่งอนาคต ตอนนี้กำลังมีเครื่องเล่นใหม่ชื่อ Transformers The Ride จะเปิดให้บริการเดือนธันวาคม 2011 ล่าสุดเดือนพฤศจิกายน 2011 มีคนมารีวิวว่าเจ้าเครื่องเล่น Transformers แอบเปิดให้บริการอย่างไม่เป็นทางการแล้ว

รูปแบบของเครื่องเล่น Transformers จะให้ผู้เล่นขึ้นยานที่เคลื่อนที่ได้ ใส่แว่นสามมิติ มีจอขนาดใหญ่อยู่ในยาน ผู้เล่นจะเป็นฝ่ายของออพติมัส หนีการไล่ล่าของฝ่ายดีเซฟติคอน (ตามเนื้อเรื่องในหนัง) ยานจะมีการเคลื่อนที่ขึ้น – ลง โยกหลบ โดนระเบิด มีระเบิด ประกายไฟ เข้าหายาน สมจริงสมจัง เหมือนอยู่ในเหตุการณ์ ด้วยระบบ 3 มิติ คาดว่าเจ้าเครื่องเล่นนี้น่าจะดึงดูดให้คนเข้ามาเที่ยว USS ได้อีกเยอะเลย

 


เดินเล่นในโซนนี้กันดีกว่า บรรยากาศในโซน Sci-fi ดูล้ำๆ เหมือนอยู่ในโลกแห่งอนาคต



Battlestar Galactica HUMAN รถไฟเหาะสายสีแดง เป็นที่นั่งแบบเท้าติดพื้น วิ่งด้วยความเร็วสูงถึง 90 กิโลเมตร/ชม. จะวิ่งผ่านโค้งถึง 14 ชั้น แต่ไม่มีตีลังกา
Battlestar Galactica CYLON รถไฟเหาะสายสีน้ำเงิน นั่งห้อยขา ไม่มีที่วางเท้า วิ่งด้วยความเร็วบนรางโค้ง + ตีลังกา ควงสว่าน หวาดเสียวใช้ได้เลยครับ ก่อนจะเล่นเครื่องเล่นนี้ต้องฝากของที่ Locker ก่อน

 


 

Accelerator เครื่องเล่นรูปถ้วย เล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ นั่งได้ 2-5 คน จะหมุนเป็นวงกลมไปเรื่อยๆ ไม่น่ากลัวแต่จะเวียนหัวนิดหน่อย รอบนึงประมาณ 5 นาที

โซน New York

 


 

โซนนี้เหมาะที่จะเดินเล่น หามุมถ่ายรูป มีรถคลาสสิค สวยๆ จอดให้ถ่ายรูปอยู่หลายคัน ตึก อาคารบ้านเรือนทำจำลอง สถาปัตยกรรม เหมือนอยู่ในนิวยอร์ค

สิ่งที่น่าสนใจในโซนนี้ก็มี Lights, Camera, Action Hosted by Steven Spielberg เป็นเบื้องหลังการถ่ายทำหนัง เข้าไปที่ห้องแรกจะฉายวีดีโอ Steven Spielberg เค้าจะมาพูดถึงเรื่องเทคนิคการถ่ายทำ มีจอทีวีหลายๆจอเหมือนในกองถ่าย เสร็จแล้วจะเดินไปเข้าห้องที่สอง ห้องนี้เหมือนเหมือนสตูดิโอ ฉากด้านหน้าเป็นเมืองนิวยอร์คที่ฝนกำลังตกหนัก มีลมพัดและละอองน้ำเหมือนจริง มีฟ้าผ่า ไฟไหม้ แท่นที่เรายืนอยู่ก็สั่นได้ด้วย ตอนจนทำเอาทุกคนตะลึงเมื่อเรือลำใหญ่โผล่มาจากไหนไม่รู้จะแล่นมาชมคนดู

ขออภัยที่โชว์นี้ไม่มีรูปครับ เค้าติดป้ายไว้ว่าห้ามถ่ายรูป

ป.ล. ใครอยู่แถวหน้าระวังน้ำกระเด็นนะครับ

 


 

การแสดง The Rockafells เป็นการแสดง Street Entertainment การเต้น B-Boy ทุกคนเต้นเก่งมาก Entertain เป็นมีการชวนคนดูไปเต้นด้วย หนึ่งในนั้นมีคนไทยด้วย ฮาดีครับ
 


รถสวยๆ ในโซน New York

เดินเยอะก็เริ่มเหนื่อยและหิว มาดูร้านอาหารในโซนนิวยอร์คดีกว่า
 




 

ร้านอาหารในโซนนิวยอร์คจะมีร้าน Mel ’s Drive-In เป็นร้านอาหาร อเมริกัน ตกแต่งร้านแนวคลาสสิค ขายแฮมเบอร์, ไส้กรอก, แซนวิช ไก่ ปลา เซตที่เห็นในถาดรูปซ้ายมือสำหรับ 2 คน ราคา 21.6 SGD ประมาณ 518 บาท ก็ถือว่าไม่แพงมากครับ

กินข้าวเสร็จก็มาเจอกับโชว์ของร้าน Mel ’s Drive-In
 


 

จะมีผู้หญิง 3 คน แต่งตัวเป็นพนักงานเสริฟ เต้นและร้องเพลงอยู่หน้าร้าน ที่ตรงถนนเลย ทั้ง 3 คนนี้เต้นเก่ง เพลงที่ผมยืนฟังอยู่เป็นเพลง Please Mr Postman สนุกดีครับ

ที่มา :