ปิดการจราจร 13 เส้นทาง วันซ้อมใหญ่ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ 7, 15 และ 21 ต.ค. นี้
จัดเส้นทางการจราจรวันซ้อมริ้วขบวนย่อยและซ้อมใหญ่ ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ชี้แจงแนวทางปฏิบัติการเข้าร่วมพระราชพิธี ขณะที่การซ้อมริ้วขบวนในวันที่ 7 ตุลาคมนี้ จะปิดเส้นทางจราจร 13 เส้นทาง
นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้จัดเตรียมข้อมูลและแนวทางปฏิบัติของสื่อมวลชน และประชาชนที่จะเข้าร่วมพระราชพิธี ได้แก่ คำศัพท์ที่เกี่ยวเนื่องกับพระราชพิธี การเข้าร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์ สถานที่ตั้งพระเมรุมาศจำลอง และซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ วิธีการเดินทาง การปิดจราจร จุดบริการอาหารและน้ำดื่ม โดยประชาชนที่จะเข้าร่วมพิธีจะต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อแสดงตัวยังจุดคัดกรองต่างๆ และตลอดเดือนนี้ สถานีวิทยุโทรทัศน์ทุกช่องได้ปรับหน้าจอโทรทัศน์ โดยเริ่มปรับโทนสี องค์ประกอบฉาก และการแต่งกาย นับจากวันที่ 1-12 ตุลาคม จากนั้นวันที่ 13-24 ตุลาคม นำเสนอรายการพิเศษมีเนื้อหาแสดงความอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย ลดรายการบันเทิง วันที่ 13 ตุลาคมจัดรายการพิเศษเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต วันที่ 25-29 ตุลาคม รับสัญญาณถ่ายทอดสดพระราชพิธีก่อนล่วงหน้า 1 ชั่วโมง และวันที่ 28 ตุลาคม ออกทุกข์
ขณะที่การจัดเส้นทางการจราจรวันซ้อมริ้วขบวนย่อย และซ้อมใหญ่ วันที่ 7 ,15 และ 21 ตุลาคม ปิดเส้นทางจราจร 13 เส้นทาง ได้แก่ ถนนเจริญกรุง ถนนสุรวงศ์ ถนนพระราม 6 ถนนพิษณุโลก ถนนราชดำเนิน ถนนเพลินจิต ถนนสาทรใต้ ถนนสาทรเหนือ ถนนพระราม 4 ถนนสุขุมวิท ถนนวิทยุ ถนนราชดำเนิน และถนนสนามไชย ส่วนวันที่ 25-29 ตุลาคม ปิดการจราจรรอบท้องสนามหลวงหลายเส้นทางห้ามนำรถยนต์ และรถจักรยานยนต์เข้า-ออกทั้ง 2 ฝั่ง
ขณะที่การจัดเส้นทางการจราจรวันซ้อมริ้วขบวนย่อย และซ้อมใหญ่ วันที่ 7 ,15 และ 21 ตุลาคม ปิดเส้นทางจราจร 13 เส้นทาง ได้แก่ ถนนเจริญกรุง ถนนสุรวงศ์ ถนนพระราม 6 ถนนพิษณุโลก ถนนราชดำเนิน ถนนเพลินจิต ถนนสาทรใต้ ถนนสาทรเหนือ ถนนพระราม 4 ถนนสุขุมวิท ถนนวิทยุ ถนนราชดำเนิน และถนนสนามไชย ส่วนวันที่ 25-29 ตุลาคม ปิดการจราจรรอบท้องสนามหลวงหลายเส้นทางห้ามนำรถยนต์ และรถจักรยานยนต์เข้า-ออกทั้ง 2 ฝั่ง
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวเชิญชวนประชาชนให้เข้าร่วมพิธีในพื้นที่ของตนเอง เนื่องจากมีการจัดสร้างพระเมรุมาศจำลองทั่วประเทศและถ่ายทอดสดตามเวลาจริง นอกจากนี้ กรมประชาสัมพันธ์จะประสานงานกับจิตอาสาทุกด้านทั่วประเทศ เพื่อรวบรวมบรรยากาศการทำงาน ทั้งภาพและเนื้อหาจัดทำรายงานภาพการปฏิบัติอย่างรอบด้าน และภายหลังพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ สำนักพระราชวัง จะเปิดให้ประชาชนได้เข้าชมพระเมรุมาศและนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจนานัปการ ตั้งแต่วันที่ 1-30 พฤศจิกายน โดยประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเผยแพร่งานพระราชพิธีได้ที่โทร 1257 และ www.kingrama9.th
